❀ e s t e e' ♔ via dek-d
Japanese comic strip claims the Hallyu Wave was fabricated
ใครกันทำไมทำอย่างนี้
การ์ตูนแนววาบหวิวจากประเทศญี่ปุ่นเรื่อง หนึ่ง ได้รับความสนใจจากทั้งชาวเกาหลีใต้ และแฟนคลับของศิลปินกิมจิเป็นจำนวนมาก ด้วยเนื้อหาและภาพที่ล่อแหลม ในการกล่าวโจมตีศิลปินสาวจากประเทศเกาหลีใต้ ชนิดหนักหน่วงรุนแรงเอามาก ๆ - AllKpop รายงาน
การ์ตูนสุดอื้อฉาวเรื่องนี้ที่มีชื่อว่า "การสืบสวนเพื่อตีแผ่ ความไม่จริงของกระแสความนิยมจากเกาหลี" ถูกอัพโหลดขึ้นบนเวบบอร์ดของชาวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกเมื่อเร็ว ๆ นี้ กระทั่งต่อมาถูกส่งต่อกระจายไปอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นข่าวทั้งในประเทศญี่ปุ่นเอง รวมถึงในเกาหลี
เรื่องราวของการ์ตูนกล่าวถึงอดีตไอดอลสาวชาวเกาหลีใต้รายหนึ่ง ที่ขณะนี้ทำงานเป็นโฮสเตส และเธอได้นัดพบกับนักข่าวเพื่อเปิดเผยความจริงหลาย ๆ ข้อของวงการบันเทิงเกาหลีใต้
ในเรื่อง สาวคนนี้อ้างว่าเกิร์ลกรุ๊ปสัญชาติเกาหลีใต้ SNSD และ KARA ที่กำลังโด่งดังได้รับความนิยมในการขายความเซ็กซี่ ประสบความสำเร็จขึ้นได้ก็เพราะเงินลงทุนจากรัฐบาลเกาหลีใต้ ที่จ่ายให้กับบริษัทเอเยนซี่ในญี่ปุ่น ความโด่งดังที่เกิดขึ้นจึงเป็นเพียงการประโคมขึ้นมา มากกว่าจะเป็นไปอย่างธรรมชาติ โดยการ์ตูนสุดฉาวเรื่องนี้ ถึงกับอ้างว่าในเหตุการณ์ที่ชาวญี่ปุ่นมารอรับสาว ๆ SNSD ที่สนามบินถึง 800 คนนั้นไม่ใช่เรื่องจริงอย่างที่ข่าวรายงาน เพราะจริง ๆ แล้วมีคนไปรอรับทั้ง 9 สาวจากแดนกิมจิเพียงประมาณ 100 คนเท่านั้น และส่วนใหญ่ ก็เป็นลูกจ้างของบริษัทที่รับงานมาเกาหลีใต้นั่นเอง
การ์ตูนยังมีการกล่าวถึงอดีตแสดงสาวผู้ล่วงลับ จางจายอน ที่เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายในปี 2009 หลังถูกต้นสังกัดกดดันให้ค้าบริการทางเพศด้วย "การให้บริการทางเพศ เป็นเรื่องปกติซึ่งเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในวงการบันเทิงกาหลีใต้ การ์ตูนเรื่องนี้มีพื้นฐานมาจากการสืบสวนแล้ว" ผู้เขียนอ้าง
ซึ่งนอกจากเนื้อหาแล้ว ผลงานชิ้นนี้ยังประกอบไปด้วยภาพวาบหวิวเรตเอ็กซ์ รวมถึงภาพของศิลปินสาว KARA กับท่าเต้น "ส่ายก้น" ในแบบเปลือยด้วย
โดยต่อมีการตรวจสอบพบว่า การ์ตูนสุดฉาวมาจากนิตยสารเล่มหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ที่มีเนื้อหาเฉพาะสำหรับ "โอตาคุ" กลุ่มที่มีรสนิยมทางเพศแบบเฟติชนั่นเอง
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นตัวแทนของ SM Entertainment และ DSP Media ซึ่งเป็นต้นสังกัดของเกิร์ลกรุ๊ปสาวที่ถูกพาดพิง ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "เราขอจัดลำดับทำความเข้าใจกับประเด็นปัญหาครั้งนี้ก่อน ซึ่งเราจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน"
ใครกันทำไมทำอย่างนี้
การ์ตูนแนววาบหวิวจากประเทศญี่ปุ่นเรื่อง หนึ่ง ได้รับความสนใจจากทั้งชาวเกาหลีใต้ และแฟนคลับของศิลปินกิมจิเป็นจำนวนมาก ด้วยเนื้อหาและภาพที่ล่อแหลม ในการกล่าวโจมตีศิลปินสาวจากประเทศเกาหลีใต้ ชนิดหนักหน่วงรุนแรงเอามาก ๆ - AllKpop รายงาน
การ์ตูนสุดอื้อฉาวเรื่องนี้ที่มีชื่อว่า "การสืบสวนเพื่อตีแผ่ ความไม่จริงของกระแสความนิยมจากเกาหลี" ถูกอัพโหลดขึ้นบนเวบบอร์ดของชาวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกเมื่อเร็ว ๆ นี้ กระทั่งต่อมาถูกส่งต่อกระจายไปอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นข่าวทั้งในประเทศญี่ปุ่นเอง รวมถึงในเกาหลี
เรื่องราวของการ์ตูนกล่าวถึงอดีตไอดอลสาวชาวเกาหลีใต้รายหนึ่ง ที่ขณะนี้ทำงานเป็นโฮสเตส และเธอได้นัดพบกับนักข่าวเพื่อเปิดเผยความจริงหลาย ๆ ข้อของวงการบันเทิงเกาหลีใต้
ในเรื่อง สาวคนนี้อ้างว่าเกิร์ลกรุ๊ปสัญชาติเกาหลีใต้ SNSD และ KARA ที่กำลังโด่งดังได้รับความนิยมในการขายความเซ็กซี่ ประสบความสำเร็จขึ้นได้ก็เพราะเงินลงทุนจากรัฐบาลเกาหลีใต้ ที่จ่ายให้กับบริษัทเอเยนซี่ในญี่ปุ่น ความโด่งดังที่เกิดขึ้นจึงเป็นเพียงการประโคมขึ้นมา มากกว่าจะเป็นไปอย่างธรรมชาติ โดยการ์ตูนสุดฉาวเรื่องนี้ ถึงกับอ้างว่าในเหตุการณ์ที่ชาวญี่ปุ่นมารอรับสาว ๆ SNSD ที่สนามบินถึง 800 คนนั้นไม่ใช่เรื่องจริงอย่างที่ข่าวรายงาน เพราะจริง ๆ แล้วมีคนไปรอรับทั้ง 9 สาวจากแดนกิมจิเพียงประมาณ 100 คนเท่านั้น และส่วนใหญ่ ก็เป็นลูกจ้างของบริษัทที่รับงานมาเกาหลีใต้นั่นเอง
การ์ตูนยังมีการกล่าวถึงอดีตแสดงสาวผู้ล่วงลับ จางจายอน ที่เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายในปี 2009 หลังถูกต้นสังกัดกดดันให้ค้าบริการทางเพศด้วย "การให้บริการทางเพศ เป็นเรื่องปกติซึ่งเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในวงการบันเทิงกาหลีใต้ การ์ตูนเรื่องนี้มีพื้นฐานมาจากการสืบสวนแล้ว" ผู้เขียนอ้าง
ซึ่งนอกจากเนื้อหาแล้ว ผลงานชิ้นนี้ยังประกอบไปด้วยภาพวาบหวิวเรตเอ็กซ์ รวมถึงภาพของศิลปินสาว KARA กับท่าเต้น "ส่ายก้น" ในแบบเปลือยด้วย
โดยต่อมีการตรวจสอบพบว่า การ์ตูนสุดฉาวมาจากนิตยสารเล่มหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ที่มีเนื้อหาเฉพาะสำหรับ "โอตาคุ" กลุ่มที่มีรสนิยมทางเพศแบบเฟติชนั่นเอง
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นตัวแทนของ SM Entertainment และ DSP Media ซึ่งเป็นต้นสังกัดของเกิร์ลกรุ๊ปสาวที่ถูกพาดพิง ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "เราขอจัดลำดับทำความเข้าใจกับประเด็นปัญหาครั้งนี้ก่อน ซึ่งเราจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน"